วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553
สวดมนต์ข้ามปี...รับพรปีใหม่ 2553
สวัสดีปีใหม่จ้า...เริ่มต้นปี 2553 เราข้ามผ่านปีด้วยการสวดมนต์ข้ามปี ณ วัดชนะสงคราม ในที่สุดสิ่งที่ตั้งใจเราก็ได้ทำซะที เพราะปีที่แล้วได้ทั้งปฎิบัติธรรม และยังได้เที่ยวพักผ่อน แต่พอปี 2552 ที่ผ่านมา นี่สิ..วันลาพักร้อนก็ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง...เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว เลยตั้งใจจะไปสวดมนต์ข้ามปีที่ภูเขาทอง หรือวัดสระเกศ ตอนแรกกะจะพาคุณแม่ไปด้วย แต่คุณแม่กลัวไม่ไหว เพราะตอนเย็นพวกเราไปช็อปปิ้งกันมา..อิอิ....แต่พอประมาณ 3 ทุ่ม เราก็เลยออกไป วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) พอไปถึง ลานด้านล่างก็เต็มไปด้วยผู้คนที่จับจองที่นั่ง และถือสายสินธ์ที่ผูกโยงกันเต็มไปหมด บนบันไดทางขึ้นภูเขาทองก็เต็มไปด้วยคน...เยอะมาก...จากที่ไปคนเดียว เลยต้องตามรุ่นน้องไปที่วัดชนะสงคราม เผื่อจะได้ชนะทุกอย่างในปีนี้...ใช่ป่ะ...555
เราก็ออกจากวัดสระเกศ เพื่อไปวัดชนะสงคราม ซึ่งตรงข้ามถนนข้าวสาร แล้วแท๊กซี่ก็พาไปผิดทาง เราเลยต้องเดินผ่านถนนข้าวสารด้านหลัง เพื่อข้ามไปยังวัดชนะสงคราม กว่าจะผ่านไปได้...โห...เหมือนข้ามผ่านมารเลยอ่ะ...อย่าวอกแวก เพราะจริงๆ เราก็ตัดใจจากการไปดูคอนเสิร์ตพี่เจ เจตริน ที่ Slim มาขั้นหนึ่งแล้ว พอถึงวัดที่ตั้งใจ ก็เข้าไม่ถึง พอเปลี่ยนวัด กว่าจะเข้าถึงวัดชนะสงคราม...ขจัดมารเยอะชะมัด...555
พอถึงวัดชนะสงคราม ก็ไหว้สิ่งศักดิ์ที่นั่น คือ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ก่อน แล้วค่อยเข้าไปในอุโบสถ ซึ่งมี พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ ประดิษฐานในอุโบสถ การมากราบไหว้ที่นี่ หมายถึง การชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง เริ่มต้นจากพระท่านสวดมนต์ ตามพิธีกรรมที่เราก็ได้แต่พนมมือรับพร คิดสิ่งดีๆๆ ไปเรื่อยๆๆ คลอกับเสียงเพลงฝั่งตรงข้าม ซึ่งไม่สงสารคนมาทำบุญกันบ้างเลย และเราก็เลยถามคุณป้าที่เคยมา เค้าก็บอกว่าจะเริ่มต้นสวดมนต์จริงๆ ประมาณ เที่ยงคืนครึ่งจนถึงเช้า เรามองหน้ารุ่นน้องกัน แล้วก็คิดว่าจะไหวกันไหมอ่ะ เราก็รีบโทรบอกป๊ากับแม่ก่อน เพระเดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วง เพราะไม่เคยกลับเช้านิ...555
แล้วก็ฟังพระท่านสวดมนต์ไปเรื่อยๆ จนพอใกล้เที่ยงคืน พระท่านก็จะให้ทุกคน นั่งสมาธิเจริญภาวนา แล้วแผ่เมตตา พอเที่ยงคืน ข้างนอกก็จุดพลุกันดังมาก พระท่านก็สวดมนต์ให้พรกับพวกเรากันไป พร้อมๆๆ เสียงพลุด้านนอก และหลังจากนั้นก็รับน้ำมนต์กันไป พอเสร็จพิธี ใครจะกลับก็กลับ ส่วนคนที่อยู่ก็คือ สวดมนต์กันจนถึงเช้า แล้วถึงจะมีการดับเทียนชัย และรับน้ำมนต์กลับบ้านได้ แต่ด้วยความที่เราไม่เคยมา และไม่ได้เตรียมตัวอะไรมา เราก็สวดมนต์ได้ถึงแค่ ตี 2 กว่าๆๆ แล้วก็กลับ ไว้ปีอื่นๆ ค่อยว่ากัน...พอกลับออกมา...โห! น่ากลัวจัง คนเมาเต็มเลยอ่ะ สภาพแย่ๆๆ รถแท๊กซี่ก็ไม่ค่อยมี จะเดินไปสี่แยกบางลำพู ก็ไม่ไหวนะ...หันไปเห็นคุณตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ตรง สน.ชนะสงครามนั่นแหล่ะ..เลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ ว่าจะเรียกรถตรงจุดไหนอย่างไรดี คุณตำรวจเลยบอกว่า ให้รอตรงนี้ เดี๋ยวแท๊กซี่มาจะเรียกให้ และก็มีแท๊กซี่มาจริงๆๆ คุณตำรวจก็เรียกและบอกว่าให้ไปส่งเราแถวลาดพร้าวหน่อย ...พี่คนขับแท๊กซี่ บอกว่า เรานี่เข้าใจหาตัวช่วยนะเนี่ย...แล้วเราก็มาถึงบ้านอย่างสวัสดิภาพ พร้อมส่ง SMS สวัสดีปีใหม่และเผื่อแพร่บุญให้ทุกคนได้อย่างสบายใจ กลับถึงบ้าน ป๊ากับแม่ ก็ตื่นมา เพราะงงว่าใครเข้าบ้าน ในเมื่อลูกสาวบอกว่าจะกลับเช้า เราก็เลยได้มอบบุญที่ปฎิบัติมาให้ป๊ากับแม่อย่างตั้งใจ
สุดท้ายเราขอเผื่อแพร่บุญอันเป็นกุศลนี้ให้กับเพื่อนๆ ญาติ พี่ น้อง และคนที่รู้จัก เจ้ากรรมนายเวร รวมถึงผู้ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ด้วย ขอให้ทุกท่านรับผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ปฎิบัตินี้ ส่งผลให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญและพบเจอแต่สิ่งดีๆๆ เข้ามาในชีวิตตลอดปีและตลอดไป...และยิ้ม^_^ ได้กับทุกๆ เรื่องตลอดไปค่ะ...และในปีหน้า ถ้ามีใครว่างและสนใจ ก็ลองไปสวดมนต์ข้ามปี ข้ามผ่านชีวิตในปีที่ผ่าน เข้าสู่ชีวิตใหม่ในปีต่อไปด้วยธรรมะที่จะช่วยให้เรารู้สึกและสัมผสได้ถึงความสบายใจที่สุดเลยล่ะค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น