เราสองคนอาจทำแต่งาน สร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้น คิดว่าความเชื่อใจ ใส่ใจในความรู้สึก มันไม่ใช่เรื่องของความห่างหรือระยะทาง เพราะสถานการณ์น้ำท่วมเราก็ผ่านมันมาแล้ว แต่ใครจะรู้ล่ะค่ะ...ว่าในช่วงแรกมันก็ใช่เลย...เราสร้างความรู้สึกดีๆให้แก่กัน จากที่เราไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย เราก็เปิดใจให้เค้าเข้ามาเติมเต็มความรู้สึก จนลืมมองว่า เค้าอาจเป็นเหมือนใครต่อใครที่ผ่านเข้ามาก็ได้นะ ความกลัวในหลายอย่างหายไป เราเป็นคนที่กล้าที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อที่บ้าน เพราะเรามีเค้าSupport ความรู้สึกเสมอ แต่เราก็ลืมไปว่าผู้ชายเค้าคงอยากได้คนที่มาดูแลเค้ามากกว่า แต่เราก็ไม่ได้นิ่งเฉย เราก็พยายามถามไถ่ นัดเจอ หรือมีของขวัญเตรียมไว้ให้ แต่แล้วเค้าก็ไม่มีเวลา พอเค้าเริ่มมีเวลา...เราก็เริ่มไม่มีเวลา แต่เราก็รู้สึกได้นะว่าทำไมจะไม่มีเวลา แต่ไม่หาเวลาให้กันต่างหาก ใส่ใจและให้ความสำคัญกันบ้างสิ เราพยายามสังเกตความเปลี่ยนแปลง แต่เราก็ไม่อยากคิดอะไรมาก เพราะด้วยคำพูดของเค้าที่บอกเราว่า..ไม่มีอารายนะ... เราคิดที่จะซื้อบัตรคอนเสิร์ตให้ แต่เค้าก็มีแล้ว เราก็เหมือนโดนดุ..ไม่คุย ไม่รับสาย และสิ่งที่ฟ้องว่าเค้าเปลี่ยนไป..คือการไม่ใส่ใจในวันเกิดของเรา..มีแค่คำว่า Hbd na...เท่านั้น เราไม่เคยหวังของขวัญ ขอแค่เวลาสัก 1 นาทีกับการมาหาหรือได้ยินเสียงมันคงมากไป...เราก็ไม่อยากคิดมาก เพราะแค่งานที่ทำประจำ กับงานที่เราต้องเรียนรู้เพื่อที่บ้านเพิ่มก็เหนื่อยและหนัก จนไม่มีเวลาจะพักแล้ว ถ้าคนที่เคยเข้าใจ เคยผ่านวิกฤต เคยรับรู้ความเจ็บปวด และคิดว่าต่างคนต่างเพียบพร้อม ต่างต้องการอะไร เราก็จะไม่ทำร้ายหรือโกหกกัน ทำให้เราเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง เราต้องโชคดีสิ เพราะเราไม่เคยคิดทำร้ายใคร แต่แล้วทฤษฎีหลายๆอย่างก็สอนเราว่า...เมื่อเราเจอคนที่ดี...เราก็อย่าไปคิดว่าเค้าดีอย่างที่คิด...เมื่อเริ่มต้นอะไรก็จะดูดีไปหมด ผุ้ชายมักเริ่มจาก 100 แล้วค่อยๆลดลง ผู้หญิงเราเริ่มต้นจากศูนย์แล้วมันก็ขยับไปจนถึง 100...ระยะทาง ระยะห่าง...มันทำให้กว้างขึ้น เพราะขาดความใส่ใจ...การไม่คุยกันไม่สามารถทำให้เราเข้าใจกันได้ในทุกๆเรื่อง...อย่าบอกอะไรเค้าซะทั้งหมด...เพราะเค้าอาจไม่ได้อยากรู้อะไรเลยก็ได้....OK ค่ะ...วันนี้เค้าคนนั้น...ผู้ชายที่แสนดี...คนดีที่เราเรียกเค้าจนติดปาก...เค้าทำร้ายเราด้วยภาพเค้าและผู้หญิงอีกคน เค้าทำลายความไว้ใจ ซึ่งมันคงไม่แปลกที่เค้าทำแบบนี้ เพราะเค้าคงไม่กล้าที่จะพูดอะไรกับเรา...ผู้ชายมักไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตนทำผิด หรือไม่กล้าพอที่บอกว่าตัวเองเปลี่ยนไป แต่กล้าพอที่จะทำร้ายจิตใจด้วยภาพและการแสดงออกว่าตัวเองเปลี่ยนใจไปกับคนอื่นแล้ว...เค้าเคยรู้ไหมว่า ผู้หญิงคือคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ แต่ผู้ชายมักไม่ทำให้มันง่าย สร้างความผูกพันแล้วทำลายความไว้ใจด้วยตัวคุณเอง แล้วอย่างนี้เหรอที่เรียกว่า รักใครรักจริง...คุณเคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่า...ทำไมต้องมีคำถามมากมายกับความรัก แล้วพอเจอคำตอบที่ว่า การมีใครสักคนที่ดีพร้อม มันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แต่จริงๆ มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราพร้อมที่จะรักคนที่รักเรารึป่าวต่างหาก...เพราะต่อให้คุณบอกเค้าว่าดีพร้อม แต่กับไม่พร้อมที่จะรักเค้า...มันก็ไม่ใช่คำตอบอยู่ดี...ชีวิตคนเรามันไม่ได้เริ่มต้นจากคนหนึ่ง...พบเจอคนอีกหนึ่งที่ใช่...แล้วลงเองด้วยการแต่งงาน...แต่มันยังมีอะไรอีกมากมายระหว่างที่ต้องเรียนรู้...ถ้าการเริ่มต้นมันทำร้ายและทำลายความไว้ใจ ความเชื่อใจ ต่อให้เคยเข้าใจ...มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร จะมีก็แต่ความเสียใจ...แล้วเราก็ต้องปล่อยเค้าไป...เพราะเค้าอาจไม่ใช่คนที่พร้อมจะดี...อย่างที่เค้าพูด หรืออย่างที่เราคิด...ไม่ต้องการคนที่ดีพอ..ต้องการแค่คนที่พอดี...ไม่ต้องการคนที่ดีพร้อม ขอแค่คนที่พร้อมจะดี...และนี่ก็คืออีกหนึ่งบททดสอบของชีวิต...ที่วันนี้เราเหนื่อยเหลือเกิน....
ในวันที่เราเหนื่อยอย่างนี้ แต่ก็ไม่ท้อค่ะ เพราะมีคนเคยบอกว่า ท้อได้แต่อย่าถอย..และเราก็เชื่อว่ารักแท้มีจริง เราจะขอแค่มีใครสักคนมาบอกว่า...เค้าพร้อมที่จะเดินกับเรา...เราจะสู้ไปด้วยกัน...เค้าจะดูแลเราเอง..แค่นี้อยู่กับเค้าเราก็คงจะเข้มแข็งได้เอง...ใช่ป่ะค่ะ...เรียนรู้ความสุขด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่เรารักล่ะกันนะ...ขอบคุณตัวเองที่กอดตัวเองให้อุ่นได้ในวันนี้..ขอบคุณค่ะ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น