ในปีนี้สิ่งที่ไม่คาดคิดฝันก็เกิดขึ้น วิกฤตการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯของพวกเรา ทำให้หลายๆคน หลายๆครอบครัวเดือดร้อน ประสบปัญหาต่างๆมากมาย บ้านน้ำท่วมต้องอพยพ ไม่มีที่อยู่ เสียหายตามๆกัน เราก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหา แต่โชคดีที่น้อยกว่าคนอื่นๆ ก็แค่น้ำนองซอยหน้าบ้าน และต้องส่งป๊า แม่และน้องสาวคนเล็กไปอยู่บ้านยาย เรากับน้องชายก็เฝ้าระวังกันไป แต่ส่วนใหญ่เราต่างหากที่อยู่เฝ้าคนเดียว ก็น้องชายไปทำงานต่างจังหวัดและไปอยู่กับแฟน..เฮ้อๆๆ ทั้งเครียด ทั้งเหงา รับปัญหาทุกอย่างทุกทาง ที่บ้านและที่ทำงาน การเดินทาง การกินอยู่ก็ลำบาก แต่ในวิกฤตนี้มันก็ยังมีโอกาสที่ดีทำให้เราได้พบความโชคดีที่เกิดขึ้นได้
เราได้มีโอกาสรู้จักคนๆหนึ่ง เค้าเป็นคนที่เราไม่คิดว่าจะได้มารู้จักกัน และวันหนึ่งที่เค้าเดินเข้ามา เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนได้รับรู้ถึงความเป็นห่วงซึ่งคนที่เพิ่งรู้จักมอบให้เราแปลก และเราก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวน้ำท่วม จนทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้มีโอกาสไปทานข้าว ดูหนัง ซึ่งเราไม่ได้ไปดูหนังมานานแล้วเหมือนกัน สถานการณ์หลายๆอย่างที่เราช่วยกันคิดช่วยกันทำ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว และการดูหนังเรื่องสำคัญในวันแรกที่หนังเข้า เราก็มีโอกาสได้ไปดูอีก เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจัง แม้มันจะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่ทำไมมันถึงดูเหมือนรู้สึกผูกพันแบบแปลกๆ และต้องการให้เป็นช่วงเวลาที่ดีอย่างนี้ตลอดไปจัง เค้าเหมือนเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกที่มันขาดหาย เค้าเข้ามามอบสิ่งดีๆ และรับในสิ่งที่เรามอบให้ โดยไม่มีเงื่อน เค้าทำให้เรารู้ว่าโลกใบนี้มีอีกคนที่ห่วงเราแบบที่เราห่วงเค้า แต่ในบางครั้งมันก็มีสิ่งหนึ่งที่เราเริ่มกลัว ก็เจ้าโลกส่วนตัวของเค้าที่ไม่รู้ว่าเราจะเข้าไปได้รึป่าว แล้วถ้าเราไม่เข้าไปในโลกของเค้า ขอแค่เค้าเดินออกมาบ้าง มันก็น่าจะดีกว่าเน้อะ แต่นี่มันก็เพิ่งเริ่มต้นอ่ะ มันคงต้องศึกษาและเรียนรู้กันไป คงไม่มีใครดีพร้อมไปซะทุกอย่างหรอกเน้อะ ขอแค่เราพอดีกับใครบ้างก็พอ สำหรับคนนี้เค้าช่างแสนดี ณ จุดนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เป็นช่วงเวลาที่สร้างสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกัน เราขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกัน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แค่วันนี้เราได้รู้จักกันและมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน มีกันและกันในช่วงเวลาที่วิกฤตแบบนี้ถือว่าโชคดีจริงๆนะ ขอบคุณเวลา ขอบคุณน้องน้ำ ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอบคุณที่มีเธอคนที่แสนดีคนนี้อยู่ตรงนี้ค่ะ และอยากให้อยู่ตลอดไปจัง^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น